เพลงคนตาย "Gloomy Sunday"


เราเป็นคนชอบฟังเพลง เพลงที่ชอบฟัง คือเพลงเศร้าและเพลงช้า ไม่ว่าจะเป็นเพลงประเภทไหนหรือภาษาใดก็ขอให้ช้าไว้ก่อนเป็นเศร้า แต่เพลงที่ฟังแล้วเรียกน้ำตาเราได้มากที่สุด มักจะเป็น 'เพลงเพื่อชีวิต(ของกู)' ฟังแล้วได้ใจดี แต่ตอนนี้ก็พยายามเลี่ยง ไม่อยากฟังมาก เนื่องจากกลัวหัวใจตัวเองว่าจะวายตายเสียก่อนที่จะใช้มันให้คุ้ม ฮู้! ไม่รู้ว่าจะเศร้าไปถึงไหน...ว่ามะ

"Gloomy Sunday" (Szomorú Vasárnap) ถูกแต่งขึ้นในปีค.ศ. 1933 โดยสองเกลอชาวฮังการีนาม Rezső Seress เป็นผู้ให้กำเนิดท่องทำนองอันแสนเศร้า และ László Jávor เป็นผู้แต่งเนื้อร้องทำนองกวี หลังจากที่เพลงนี้ออกสู่หูผู้ฟังชาวฮังการีได้ไม่นาน ก็เกิดกระแสการอัตวิบากกรรมหลายรายในฮังการีขึ้น เพลงนี้จึงไดู้ถูกนำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษและเปิดสู่หูผู้ฟังชาวมะกันในปี 1936 และผู้ฟังทั่วโลก ซึ่งได้กลายเป็นที่รู้จักกันของชาวอเมริกันในนามของ "The Hungarian Suicide Song" (Billie Holiday's version โดย Paul Robeson เป็นเวอร์ชั่นที่โด่งดังที่สุด) ซึ่งมีการเพิ่มเติมดัดแปลงเนื้อหาตอนจบของเพลง เพื่อให้ฟังแล้วไม่สลดหดหู่สิ้นหวังอยากตาย...มากจนเกินไป!

เนื่องจาก"Gloomy Sunday"เป็นเพลงเศร้าฟังแล้วชวนหดหู่ใจ จึงมีกระแสข่าวรายงานว่าเพลงดังกล่าวนี้เป็นสาเหตุให้ผู้ฟัง ฟังแล้วฆ่าตัวของตัวเองตายราวสองร้อยคนทั้งในฮังการีและหลายประเทศทั่วโลก ดังนั้นในเวลาต่อมา "Gloomy Sunday" จึงถูกแบนในหลายประเทศ เช่น ฮังการี อังกฤษ และแม้กระทั่่งในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และได้มีการนำมาแกะกล่องเปิดฟังกันใหม่ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา

เพลงนี้เป็นเพลงที่ผู้แต่งตั้งใจจะแต่งให้กับคู่รักเก่าของตนที่ได้แยกทางกันไป และต่อมาหลังจากที่เพลงเปิดตัวได้ไม่นาน ก็พบว่าคนรักของเขาได้ปลิดชีวิตตัวเองลงโดยมีเนื้อเพลง "Gloomy Sunday" ถูกค้นพบว่าวางอยู่ใกล้ๆกับตัวเธอ

ไม่ว่าจะเป็นด้วยท่วงทำนองหรือเนื้อหาของเพลงนี้แล้ว ชวนเหงา มันจึงเปรียบเสมือนมนต์ขลังที่หยิบยื่นความตายให้กับเหล่าบรรดาผู้ฟังที่มีจิตใจอ่อนไหวเป็นทุนเดิม จึงสะกดจิตสะกดใจให้ผู้คนตัดสินใจปลดชีพตัวเองลง โดยหลังจากการตาย มักจะพบว่าผู้ตายได้ทิ้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับเพลงนี้ไว้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเป็นการถือเนื้อเพลงไว้ในมือหรือเปิดเพลงให้บรรเลงอยู่ในขณะที่ตนทำการอัตวิบากกรรม

นอกจากนี้ Rezső Seress ตัวผู้แต่งเอง ก็ได้ตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตายลงมาจากหน้าต่างห้องพักอาศัยของตนใีนปี 1968 หลังครบรอบวันเกิด 69 รอบของเขา แต่ีที่น่าแปลกใจก็คือ Rezső Seress ไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะความเศร้าที่เกิดจากเพลงที่ตนแต่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตายของหลายชีวิต แต่เขากลับคิดฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุที่ว่า เขาไม่สามารถจะแต่งเพลงให้ประสบความสำเร็จได้ดีเท่่ากับเพลง "Gloomy Sunday" ที่โด่งดังไปทั่วโลกแล้วอีกต่างหาก

เราว่าคนเราจะตาย มันคงไม่ได้คิดจะตายเพียงเพราะเพลงๆเดียว แต่เราเชื่อว่าคนเหล่านั้นคงมีเหตุผลเศร้าๆ เน่าๆ แตกต่างกันออกไป ส่วน "Gloomy Sunday" นั้น คงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถที่ยื้อยุดฉุดกระชากชีวิตจากความตายที่หอมหวานนั้นได้อีกต่อไปแล้วอีกต่างหาก หรือว่ามันอาจจะเป็นการตายที่คลาสสิคและก็อินเทรนด์ที่สุด ยังไงก็จะตายแล้วก็ขอตายตามแฟชั่นหน่อยแล้วกัน เพลงนี้จึงอาจถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างของการตายได้เป็นอย่างดี เราว่าอย่างนั้นนะ เพราะว่าถ้าจะศึกษาให้ดี จะพบว่าประเทศฮังการีเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายของประชากรสูงกว่าประเทศอื่นๆทั่วไปอยู่แล้้ว เพราะในชาวฮังการีหนึ่งแสนคน จะพบว่ามีคนที่ฆ่าตัวตายถึง 45.9 คน (ปี 1984) อีกทั้งเพลงนี้ได้เป็นที่รู้จักกันในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ไม่น่าแปลกที่คนจำนวนไม่น้อยในช่วงเวลานั้้นจะเกิดความเครียดถึงขั้นฆ่าตัวตาย ดังท่่อนเด็ดที่ว่า "My heart and I have decided to end it all."

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราลองฟังเพลงนี้ดูแล้ว ไม่เศร้า!(เพราะแปลไม่ค่อยออก Ha!)...แต่หดหู่ เนื้อหาชวนให้ไปหาความสุขเอาภพหน้ายังไงยังงั้น ถ้าใครใคร่อยากฟัง ก็ลองคลิกเข้าไปฟังได้ที่นี่ http://www.youtube.com/watch?v=48cTUnUtzx4&mode=related&search= ฟังแล้วคิดยังไงก็เล่าให้กันฟังด้วย แต่เราว่าเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่ใน blog ของเราเนี๊ยะ เศร้ากว่าหว่ะ(ถึงแม้ว่าจะแปลไม่ออก...อีกแล้ว ก็ตาม)

เราเป็นคนชอบฟังเพลงเศร้า ซึ่งอาจจะแปลความหมายได้สองอย่าง ชอบฟังเพลงเศร้าๆ หรือชอบฟังเพลงแล้วเศร้า แต่ถึงเศร้ายังไงก็ต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง เพราะเราก็คงไม่อยากจบชีวิตตัวเองลงแบบมีเนื้อเพลงเศร้าของน้าหมู พงษ์เทพ ถูกกำอยู่ในมือเป็นแน่!

แด่ "Gloomy Sunday" ~ วันอาทิตย์ที่แสนเศร้า

Sunday is gloomy,
My hours are slumberless
Dear as the shadows
I live with are numberless
Little white flowers
Will never awaken you
Not where the black culture's
Sorrow has taken you
Angels have no thoughts
Of ever returning you
Wouldn't they be angry
If I thought of joining you?

Gloomy Sunday

Gloomy Sunday,
with shadows I spend it all
My heart and I
Have decided to end it all
Soon there'll be candles
And prayers that I say I know
But let them not weep
Let them know
That I'm glad to go
For death is no dream
And in death I'm caressing you
With the last
Breath of my soul
I'll be blessing you

Gloomy Sunday

Dreaming, I was only dreaming
I awake and I find
You asleep in the deep of my heart
Deep

Darling I hope
That my dream never haunted you
My heart is telling you
How much I wanted you
Gloomy Sunday

Comments

landscape..45 said…
ผมฟังต้นฉบับแล้ว..ถ้าเป็นคนยุคนี้ฟังอาจจะเข้าไม่ถึงเท่าไหร่..แต่ถ้าเอาใจและความรู้สึกของเราไปลองอิงกะคนยุคนั้นผมคิดว่า..หม่นหมองมากเลยครับ..ไม่ได้หมายถึงอากาศหมองมัวนะ แต่เป็นวันอาทิตที่แสงแดดโปร่งเกือบจะร้อน ในห้องมีบางมุมที่ย้อนแสง..แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความเงียบเหงา ทำให้นึกถึงภาพเขียนของศิลปิน..Andrew Wyeth..ที่ชีวิตเขาเขียนเกี่ยวกับความเหงาได้อย่างจับใจจริง...เฮ้อ..ชีวิตที่มีความเหงาปนอยู่กับความฝัน..มันลำบากแฮะ..แต่ก็มีความสุขแบบแปลกๆๆๆ...ว่ามั๊ย..บุญทวี
landscape..45 said…
แต่จริงๆๆ..ผมชอบ Windham hill นะ ผมว่าเพลงเขาเหมาะกะการวาดรูปทิวทัศน์ของผมมากเลย ฟังแล้วเพลิน วาดรูปไปเรื่อยๆๆ...