"ตะวัน"

ใครว่าโลกนี้ เห็นดวงตะวันแค่ดวงเดียว

มันอยู่ที่ว่าเรามองยังไง มุมไหน

ใครว่าดวงตะวันสองดวง อยู่ที่เดียวกันไม่ได้

ดวงหนึ่งอาจเร่าร้อน

หากอีกหนึ่งชื่นเย็นเป็นสายน้ำ

ดวงตะวันในใจฉัน บอก... "คิดถึงคุณ"



I watch the sunset today with my naked heart.

Never forget myself to be asked as usually:

Where do I belong to?

Somebody said there is only one Sun seen from the land where we stand.

I said it depends...how we view it,

It depends...which angle we look at it.

Somebody said,once again,

There can't be two Suns fit in a place in ones' hearts.

I said it depends....

Perhaps when one flames powerfully as fire;

one another comforts philosophical as water.

I was watching the sunset with my naked heart.

The Sun in my heart said....missing the Sun in your heart.

"I've been missing you."

Comments

Anonymous said…
ดวงตะวันที่ชัดเจนที่สุดในชีวิตของใครคนนึง…น่าจะเป็นดวงตะวันในใจของตัวเอง หากในใจของคุณ
เข้มแข็ง ชัดเจน และทำหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ รู้จักรักตัวเองบ้าง อย่าให้คำว่า “ตัวตนของตัวเอง” สับสนเพราะคำของคนอื่นที่อาจไม่เข้าใจว่าเราเป็นใครจริงๆ เสียสละและยอมรับในสิ่งที่เลวร้ายพอประมาณ หากเรายอมมากเกินไป…แล้วใหนล่ะ “ตัวคุณ” สิ่งที่คุณเคยเชื่อมาตลอดชีวิต มันอยู่ใหน สูงสุดกลับสู่สามัญ เป็นเรื่องธรรมดา
ไม่เว้นแม้แต่ความรัก คงไม่มีใครสมหวังไปทุกเรื่อง อย่าพยายามให้ความรักเป็นอย่างที่ต้องการจนเกินไปเหมือนการวิ่งตาม ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ใช่ สุขทุกข์ก็เก็บไว้ในใจ อย่าพยามรักคนคนนึงมากจนหลงลืมทำร้ายหรือไม่ให้เกียรติคนรอบข้างที่เขาเป็นห่งคุณ เพราะเขาเหล่านั้น เปรียบเหมือนประวัติศาสตร์ในชีวิตคุณที่ทำให้คุณ “ได้คิด” ว่าชีวิตคุณเป็นได้ทุกวันนี้ …วันนี้คุณอาจสับสน ก็ขอให้มีสติไว้มากๆ…..ผมแค่กลัว….กลัวว่าคุณจะลืมอะไรบางอย่างในชีวิต…ก็เท่านั้นเอง …….รักษาตัว……..วิท
Anonymous said…
ดวงตะวันที่ชัดเจนที่สุดในชีวิตของใครคนนึง…น่าจะเป็นดวงตะวันในใจของตัวเอง หากในใจของคุณ
เข้มแข็ง ชัดเจน และทำหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ รู้จักรักตัวเองบ้าง อย่าให้คำว่า “ตัวตนของตัวเอง” สับสนเพราะคำของคนอื่นที่อาจไม่เข้าใจว่าเราเป็นใครจริงๆ เสียสละและยอมรับในสิ่งที่เลวร้ายพอประมาณ หากเรายอมมากเกินไป…แล้วใหนล่ะ “ตัวคุณ” สิ่งที่คุณเคยเชื่อมาตลอดชีวิต มันอยู่ใหน สูงสุดกลับสู่สามัญ เป็นเรื่องธรรมดา
ไม่เว้นแม้แต่ความรัก คงไม่มีใครสมหวังไปทุกเรื่อง อย่าพยายามให้ความรักเป็นอย่างที่ต้องการจนเกินไปเหมือนการวิ่งตาม ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ใช่ สุขทุกข์ก็เก็บไว้ในใจ อย่าพยามรักคนคนนึงมากจนหลงลืมทำร้ายหรือไม่ให้เกียรติคนรอบข้างที่เขาเป็นห่งคุณ เพราะเขาเหล่านั้น เปรียบเหมือนประวัติศาสตร์ในชีวิตคุณที่ทำให้คุณ “ได้คิด” ว่าชีวิตคุณเป็นได้ทุกวันนี้ …วันนี้คุณอาจสับสน ก็ขอให้มีสติไว้มากๆ…..ผมแค่กลัว….กลัวว่าคุณจะลืมอะไรบางอย่างในชีวิต…ก็เท่านั้นเอง …….รักษาตัว……..วิท
Shinny said…
แสงของตะวันอาจช่วยส่องทางที่ก้าวไปแต่ละย่างก้าวให้ชัดเจน แต่บางครั้งมันก็ร้อนแรงเกินไปจนกลายเป็นควันไฟที่ทำให้เส้นทางข้างหน้าเราดูมืดหม่น

ธรรมชาติของชีวิต ที่ต่อให้จะเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่มีทางเลือก เพราะเราย้อนกลับไปแก้อะไรที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว

เพื่อนรัก พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว แสงของตะวันดวงใหม่กำลังจะขึ้นมา ยิ้มไปกับมันนะจ๊ะ