ขอเพียงให้ได้ฝันถึงคุณบ้าง

ฉันไต่ลงมาจากยอดเขาสูงเฉียดฟ้า
อยู่ข้างบนมันหนาว
แม้จะมีหมู่เมฆลอยเล่นลมให้คอยชื่นชมก็เถอะ
แต่มันก็ว้าเหว่ไม่น้อย
ฉันคิดอยู่นาน
นานพอที่จะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่ฉันต้องการ
ฉันก็คงต้องกล้าที่จะเสี่ยง
ฉันจึงตัดสินใจเดินลงจากเขามาทั้งที่ใจยังอาลัย
มาตามทางเล็กแคบแต่สูงชัน
คดเคี้ยวไล่ลงจากยอดเขาสู่ระดับพื้นดิน
ลมพัดผมปลิวระบายไหวๆ พัดปลายผมสะบัดพลิ้วระดวงหน้า
ดวงหน้าที่มีแววตาบอกว่าคิดถึงคุณ ฉันเร่งฝีเท้าเร่าๆ
เดินตามทางสายเปลี่ยว อยากลงมาเจอความฝันข้างล่างเสีียเหลือเกิน...
ดอกไม้เรียงรายข้างทางสีสันสดสวย
หากมีคุณมาอยู่ร่วมชื่มชมด้วย คงสวยกว่าหลายเท่า
เหลือง ชมพู แสด แดง ม่วง ขาว...
ฉันแอบขออนุญาตพรากดอกหญ้าดอก้เล็กๆสีขาวดอกหนึ่ง
มาจากพื้นดินและรากเหง้าของมัน เพียงเพื่ออยากจะเห็นรอยยิ้มกว้างของคุณ
ในยามที่ฉันหยิบยื่นมันให้กับคุณ
ฉันเก็บดอกไม้มาฝากคุณ แม้ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจึงจะได้พบ
แม้ไม่รู้ว่าอีกไกลแค่ไหนเพีียงใดจึงจะเดินทางไปถึงที่ที่คุณอยู่
ไม่เป็นไร...ฉันบอกกับตัวเอง แม้ว่าฉันจะไม่มีวันไปถึงคุณ
และได้พบคุณอีกเลยในตลอดชีวิตนี้
แต่ดอกไม้ดอกนี้ก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แล้ว
มันได้เบ่งบานในใจฉัน ส่งไปยังใจคุณ หวังว่าคุณคงจะได้รับ
ในวันที่สายลมพัดเอื่อยลงมาจากหุบเขาแสนไกล
...รับไว้ด้วยนะคนดี
คุณรู้ไหม...
หากการรักคุณเป็นการเห็นแก่ตัว ฉันคงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก
คุณคิดถึงฉันบ้างไหมนะในวันที่แดดจัด
คุณจะคิดถึงฉันไหมในวันที่สายฝนโปรายปราย
คุณจะคิดถึงใครในวันที่สายลมหนาวพัดอู้มาจากทางเหนือ
คุณจะคิดถึงฉันไหม...ในวันที่คุณไม่มีใคร
ฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน คิดถึง...ชีวิตที่ขาดหายไปพร้อมกับคุณ
นานมากแล้วสินะที่ฉันไม่ได้หัวเราะร่ากับคุณเหมือนวันเก่าก่อน
คุณสัญญาว่าจะลงมาเก็บดอกหญ้าให้ฉันในวันที่ฝนปรอย
คุณชวนฉันลงมาเดินเล่นลมด้วยกันในวันนั้น ฉันได้แต่อ้อยอิ่ง
พร่ำแต่จะไปตามทางกลิ่นหอมของดอกกาสะลองขาวสะล้อย
ที่ลอยละล่องมาตามแม่น้ำสายที่ไหลผ่านกระท่อมแสงจันทร์ของเรา
ฉันเดินตามกลิ่นหอมของกาสะลองไป
จนลืมนึกถึงดอกหญ้าที่คุณบอกว่าจะพาไปเก็บ
ฉันยังจำสีหน้าเพลาที่คุณเดินตามไปพบฉันเข้าที่ใต้ต้นกาสะลองตอนนั้นได้ดี
คุณยิ้มกริ่มบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงช่างฝัน
เหมือนเด็กที่วิ่งไล่ตามจับผีเสื้อจนได้หลงทาง
ฉันทำหน้ามุ่ยสวนตอบคุณกลับไปว่า...ฉันไม่ได้หลงทาง
แต่ฉันตั้งใจเดินตามหาต้นดอกกาสะลอง
เพื่อเก็บดอกมันไปทำแหวนดอกไม้ถักไว้สวมนิ้วนางต่างหาก
คุณหัวเราะเสียงดังเหมือนทุกครั้งที่คุณรู้ว่าคุณเป็นต่อ...
คุณบอกว่านั่นแหละที่คุณบอกว่าฉันช่างฝัน
ฉันค้อนกลับไปว่า...
ฉันไม่ได้ฝันจะให้คุณเป็นคนสวมแหวนดอกกาสะลองถักให้สักหน่อย
ฉันจะสวมมันเองต่างหาก
แล้วฉันก็ค้อนทำตาประะหลักประเหลือกเดินกลับกระท่อมแสงจันทร์ของเรา
มันเป็นเวลาใกล้พลบคำ่เมื่อเรากลับถึงบ้าน
แต่กระนั้นก็ตามคุณยังยืนยันอยากให้ฉันลงไปเก็บดอกหญ้ากันกับคุณ
ฉันร่ำไรไม่อยากไป
เพราะอยากใช้เวลาชื่นชมดอกกาสะลองกล่ินหวานที่เพ่ิงเก็บมาจากราวป่า
คุณจึงจากมาพร้อมคำสัญญาว่าจะรีบกลับก่อนพระอาทิตย์จะลาฟ้า...
ฉันรอคุณอยู่นาน...นานจนแน่ใจว่าคุณคงไม่กลับมา
กระท่อมแสงจันทร์ของเราช่างเงียบเหงาเมื่อไม่มีคุณให้ชวนทะเลาะ
มันอ้างว้างเปล่าเปลี่่ยวเหมืิอนหัวใจฉันตอนนี้
ดอกกาสะลองที่เก็บมาได้เหี่ยวร่วงไปนานแล้ว
นานมากพอจนดูไม่ออกว่าครั้งนึงมันเคยชูช่อขาวนวล
ชวนให้เก็บมาดอมดมเพียงใด
แต่ฉันยังไม่กล้าพอที่จะจากกระท่อมแสงจันทร์ลงจากยอดเขามาตามหาคุณสักที
เพียงเพราะฉันกลัว....กลัวที่จะเผชิญกับความจริงที่เกิดขึ้นกับคุณในวันนั้น
คุณเคยบอกฉันว่า สักวันหนึ่งคุณจะต้องกลับไปในที่ที่คุณจากมา....
พื้นที่ราบแห่งนั้นที่คุณได้ละทิ้งชีิวิตของคุณไว้เบื้องหลัง
คุณเหนื่อยอ่อนกับการเดินทางในเมืองใหญ่
คุณมักจะพร่ำบ่นให้ฉันฟังว่าชีวิตของคุณคือการเดินทางในเมืองใหญ่
ที่น่าเบื่อหน่าย
เพียงเพื่อค้่นหาอะไรบางอย่างที่คุณอาจไม่มีวันค้นพบมันได้จากที่นั่น
คุณจึงจากเมืองใหญ่มาแล้วพบฉันเข้าในกระท่อมเล็ก ณ หุบเขาแห่งนี้
คุณบอกว่าคุณอยากมีชีิวิตเหมือนฉัน
ฉันจึงอนุญาตให้คุณใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฉัน
ในกระท่อมที่เราสองคนเรียกมันว่า 'กระท่อมแสงจันทร์'
คุณเคยบอกว่า ถ้าหากวันใดที่คุณเกิดรักฉันเข้าจริงๆแล้ว...คุณจะจากไป
ฉันเอ่ยถามว่าทำไม...
คุณตอบว่าคุณจะต้องกลับไปเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณในที่ที่คุณจากมา
แล้วทำไมต้องรอให้รักฉันก่อนคุณจึงจะจากไปด้วยเล่า...
คุณบอก...เพราะอย่างน้อยคุณจะได้รูู้ว่ายังมีรักแท้ที่สวยงาม
และมีความทรงจำที่หอมหวานรออยู่ที่ใดสักแห่งในโลกนี้
น้ำตาฉันไหล...
เมื่อนึกถึงไปว่าคุณได้จากฉันไปในวันที่คุณค้นพบว่าคุณรักฉันมากเพียงใด
เราทั้งสองคนต่างเจ็บปวดในโลกของความเป็นจริงที่่ไม่มีวันเป็นเหมือนฝัน
ฉันไม่ได้อยากออกเดินทางตามหาคุณเพียงเพราะฉันรักคุณ
แต่ฉันกำลังตามหาคุณเพราะฉันรู้ว่าเราต่างก็รักกัน
แม้มันจะเป็นเรื่องยากเย็นสักเพียงใดก็ตาม
แต่ฉันก็ได้ตัดสินใจทิ้งตัวตนความเป็นฉันไว้ที่กระท่อมแสงจันทร์แห่งนั้น
แล้วเดินจากมา
ทิ้งความฝันกับบ้านเล็กในป่่าใหญ่
เพื่อตามหาความฝันอีกสิ่งที่ยังรอคอยให้เป็นจริง ...นั่นก็คือคุณ
เมื่อฉันพบคุณฉันจะไม่ทำสิ่งอื่นใด
นอกจากไถ่ถามว่าคุณสุขสบายดีไหมในเมืองใหญ่ที่ใจคนไม่ใหญ่แห่งนี้
ไม่ว่าคุณจะกำลังทำอะไร ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าคุณจะอยู่กับใคร
ฉันแค่อยากจะไปให้เห็นว่าคุณสุขสบายใจดี ฉันก็จะจากมา....
พร้อมกับความรักที่จะทิ้งไว้ที่นั่นกับคุณ
ฉันจะไม่ขอให้คุณเก็บรักษามันไว้
แต่แค่อยากให้คุณจัดเก็บมันไว้ให้เป็นที่เป็นทางอย่างที่มันควรจะอยู่
และแค่รับรู้ว่าฉันนั้นรักคุณ
เหมือนอย่างที่ฉันได้จัดการดูแลกับความเศร้าและความรักของฉันที่มีให้กับคุณ
อยู่เสมอมา
ฉันเดินทางมาไกลแล้ววันนี้
ไกลพอที่จะทำให้ฉันเหน็ดเหนื่อย
และลืมเห็นไปว่าพระอาทิตย์กำลังจะจูบลาฟากฟ้าฝั่งตะวันตก
และหมู่นกกำลังโผบินกลับรัง....ฉันคงไปไม่ถึงเมืองใหญ่ได้ในวันนี้
แต่ขอให้ฉันได้บอกรักคุณผ่านดวงดาวทอแสงระยับ
ที่ได้เคลื่อนตัวผ่านเข้ามาแทนที่หมู่เมฆ
ในคำ่คืนหนึ่งที่เปลีี่ยวเหงาคืนนี้ ในห้วงคำนึง
ณ จุดเล็กจุดหนึ่งบนโลกใบนี ้....."ฉันคิดถึงคุณ"
จากผู้หญิงช่างฝันของคุณ
Photo by Jiab
Comments
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมไดนะจ๊ะ มันอัพง่ายกว่าในสเปซน่ะจ้ะ ก็เลยไปอัพที่นั่นบ่อยๆ แต่ช่วงนี้ยุ่งหัวฟู แต่มีรางวัลมาล่อใจทำให้มีแรงฮึดทำงานแหละ
คิดถึงเจี๊ยบนะ พี่ไม่ค่อยได้เข้ามาเม้นท์ให้ แต่ก็มาเยี่ยม มาอ่านน้า คิดถึง=คึดฮอดเด้อ....
...สำหรับเราที่ไม่ค่อยได้อ่านอะไรแบบนี้ แต่ก็สัมผัสได้ว่ามันเหงา อีกอย่างเราดันมองเห็นภาพตามเรื่องราวไปด้วยนี่สิ
...เราว่าเรารู้เรื่องนะ...
ชื่นชมในการใช้ภาษาจริงๆเลย
ตัวโน้ต
ราชาแห่งยามค่ำคืน....Sydney
Umm, so impress by your writing naja...
Pook
แปลไม่ออกแต่ใสดี ชอบนะ
หน้าม้า
ถึงแม้เค้าคนนั้นจะจากเราไปแล้ว
อ่านแล้วเศร้า...เจี๊ยบก็ไม่ต้องคิดมากนะ
มันคือ วงเวียนชีวิต
เห็นด้วยที่บอกว่า
ในทุกๆวัน คนที่เรารักต่างก็ตายไปจากชีวิตของเรา
อัพรูปบ้างสิ พี่อยากเห็นว่าที่ Philly เป็นไงบ้าง
สู้ๆ นะจ๊ะ คนเก่งของพี่!!!
มาให้กันอยู่ตลอดเวลา
เจี๊ยบดีใจนะคะที่ได้รู้จักกับพี่เอ๋
รักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่สาวที่แสนดี